วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

กินบะหมี่สำเร็จรูปอย่างฉลาด


          หากจะนำตัวเลขยอดของคนไทย กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ออกมาเปิดเผยแล้ว หลายคนจะตาค้าง คาดไม่ถึง เพราะจากรายงานระบุว่า ในแต่ละวัน คนไทยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 6-7 ล้านซอง ตกคนละประมาณ 50 ล้านซองต่อปี กลุ่มที่กินมากที่สุดเห็นจะเป็น เด็ก และ วัยเรียน วัยรุ่น โดยเฉพาะ เด็กหอพัก

          เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา นักโภชนาการจัดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารด้อยคุณค่า ไม่สมดุล มีแต่แป้งและผงชูรส ต่อมาทานกระแสการบริโภคที่มาแรงของคนไทยไม่ได้ จึงร่วมมือกันนำมาพัฒนาให้มีคุณค่ามากขึ้น โดยการเสริมสารอาหาร 3 ชนิดในเครื่องปรุง คือ วิตามินเอ ไอโอดีน และธาตุเหล็ก แล้วส่งเสริมการบริโภคให้ถูกหลักโภชนาการ

          การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยเพียงแค่เติมน้ำร้อนแล้วกินเลยนั้น ถือได้ว่ากินไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะกินแบบนี้ติดต่อกันจนเป็นนิสัย ที่เห็นยิ่งไปกว่านั้นคือ ฉีกซองกินทั้งดิบๆ เป็นขนม กินเล่น การกินลักษณะนี้ติดต่อกันเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ เพราะเท่ากับว่าได้กินเฉพาะแป้ง

          ตอนเลือกซื้อต้องสังเกตบนซองว่า มีสารไอโอดีน ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ อยู่ด้วย เมื่อนำมาปรุงจะต้องเติมไข่ หรือเนื้อสัตว์ และผักลงไปทุกครั้ง ที่สำคัญต้องไม่ลืมฉีกซองเครื่องปรุงใส่ลงในบะหมี่ทุกครั้งที่ปรุง ใส่น้ำให้พอดี ซดน้ำให้ได้มากที่สุด หมดชามยิ่งดี เพราะเท่ากับว่าได้สารอาหาร 3 ชนิดเข้าสู่ร่างกายอย่างเต็มที่

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป...กินได้ แต่ต้องใส่ใจ...กินให้ถูก ปรุงให้สุก เติมเนื้อสัตว์ และผักทุกครั้ง 



10 วิธีที่ทำให้สมองฝ่อเร็ว


1. ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือด ต่ำ แต่นี่จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม
2. กินอาหารมากเกินไป การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็น สาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น
3. การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคสมองฝ่อและโรคอัลไซเมอร์
4. ทานของหวานมากเกินไป จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็น ประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาของสมอง
5. มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย การสูดเอาอากาศที่เป็น มลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง
6. การอดนอน การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อน การอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์ สมองตายได้
7. นอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว
9. ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมอง การขาดการใช้ความ คิดจะทำให้สมองฝ่อ
10. เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง



ชาเย็น-ชาเขียว นักวิชาการเตือน ทำวัยรุ่นลงพุง



           นักวิชาการเตือน ชาไข่มุก ชาเย็น กาแฟเย็น เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อ้วน โดยเฉพาะวัยรุ่นนิยมกันมาก บางคนดื่มวันละ 3 แก้ว ทำน้ำหนักพุ่ง เตรียมสำรวจหาข้อมูลชัดเจน แนะหลีกเลี่ยงชาเย็น-ชาเขียวสีเข้มจัด คาดใส่สี วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดูแล

          ในงานประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 9 ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ หัวหน้าภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเลขาธิการสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กรณีองค์การด้านสุขภาพและนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโรงพยาบาลอา ร์คอน ประเทศเยอรมนี ได้ออกคำเตือนการบริโภคเครื่องดื่มประเภทชาไข่มุกซึ่งกำลังได้รับความนิยมใน ยุโรป รวมทั้งเยอรมนี นอกจากอาจทำให้เกิดการสำลักเม็ดไข่มุกแล้ว ยังตรวจพบการปนเปื้อนสารโพลีคลอริเนต ไบฟีนิล หรือพีซีบี (PCBs) เป็นสารก่อมะเร็งเจือปน ว่า ในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ แต่เมื่อมีข่าวนี้ออกมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องไปดำเนินการตรวจวิเคราะห์

          ทั้งนี้ คิดว่าการตรวจพบในเยอรมนีน่าจะเกิดจากการปนเปื้อนหรือเจือปน เพราะสารพีซีบีเป็นสารทำความเย็น ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ หากถูกปล่อยไปสู่สิ่งแวดล้อมจะอยู่ในพืชและไม่ย่อยสลาย เช่น อาจจะอยู่ในมันสำปะหลังที่นำมาผลิตแป้ง และน่าจะเป็นบางล็อตเท่านั้น จึงไม่ควรตื่นตระหนก

          "การ ป้องกันคือ ดื่มให้น้อยลง ไม่ดื่มถี่มาก ควรดื่มนาน ๆ ครั้ง เพราะชาไข่มุกหวานมาก ต้องระวัง ที่สำคัญในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ ควรหลีกเลี่ยง เพราะไข่มุกที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังเหนียวมาก การดูดโดยใช้หลอดใหญ่ ๆ เด็กอายุ 4 ขวบอาจสำลัก ติดคอ หรือเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ พ่อแม่ที่ซื้อให้ลูกดื่มต้องระวัง โดยควรเฝ้าดูและให้เด็กนั่งอยู่กับที่ นอกจากนี้ ในผู้สูงอายุก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะมีปัญหาเรื่องการกลืนและอาจสำลักเช่นกัน" ผศ.ดร.เรวดีกล่าว



          ผศ.ดร.เรวดี กล่าวต่อว่า ชาไข่มุกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกกาแฟเย็น ซึ่งกาแฟเย็น ชาเย็น กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เพราะวัยรุ่นบริโภคเยอะมาก จากประสบการณ์ที่ไปทำเรื่องการลดน้ำหนักมาหลายแห่ง พบว่าคนที่น้ำหนัก มาก ดื่มกาแฟเย็นวันละ 3 แก้ว นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ยังทำให้น้ำหนักขึ้น เคยแนะนำให้ดื่มเหลือเพียงวันละ 1 แก้ว ปรากฏว่าน้ำหนักลดลง 5 กิโลกรัม ใน 1 เดือน ประหยัดวันละ 50 บาท นี่เพียงแก้วละ 25 บาท ไม่ใช่กาแฟดังราคาแพง ดังนั้นอยากให้คำนึงถึงค่าใช้จ่ายและภาวะน้ำหนักเกินด้วย ด้วยเหตุนี้กำลังจะทำการสำรวจการบริโภคกาแฟว่ามีความสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนัก เกินของคนไทยหรือไม่

          ผู้สื่อข่าวถามถึงสีของเครื่องดื่มประเภทชาเย็น ชาเขียว หัวหน้าภาควิชาโภชนวิทยา กล่าวว่า เท่าที่ทราบ ชาจะผสมสมุนไพรที่เป็นสีจากธรรมชาติ แต่ถ้าสีเข้มมากอาจใช้สีผสมอาหาร ทั้งนี้ ถ้าเป็นสีผสมอาหารดื่มมากก็ไม่ปลอดภัย เพราะเป็นสีสังเคราะห์

          ใครที่รู้ตัวว่ากินวันละหลายแก้วควรหลีกเลี่ยง อยากให้รณรงค์ลดการดื่มลง เพราะทั้งหวานและมัน ควรจะหันมาดื่มน้ำเปล่าดีกว่า เนื่องจากบางคนดื่มแทนน้ำ ยิ่งในตอนนี้คนเป็นโรคเบาหวานกันมาก การดื่มตรงนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้ โดยเฉพาะต่างจังหวัดขายถุงใหญ่มาก บางคนดื่มเป็นกระติก คนขายขับเอากระติกมาส่งใน 1 วัน ดื่มมากกว่า 1 กระติก

Mushroom